วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2557

กรุงกัวลาลัมเปอร์

     
เมืองหลวงของมาเลเซีย จะได้ไปเห็นตึกแฝดสูงที่สุดในโลก ที่มีชื่อว่า Petronas มีความสูงถึง 452 เมตรหรือสูงกว่าตึกใบหยกบ้านเรา 148 เมตร ออกแบบโดยชาวอเมริกัน Cesar Pelli ก่อสร้างโดยบริษัทจากญี่ปุ่น และบริษัทเกาหลี รับผิดชอบกันคนละตึก และต่างก็ต้องแข่งขันกันด้วย เพราะหากใครสร้างเสร็จก่อนก็จะเป็นผู้สร้างสะพานเชื่อมตึกทั้งสองในชั้นที่ 42 ปรากฏว่าแรกๆเกาหลีสร้างได้เร็วมาก แต่หลังจากญี่ปุ่นตั้งหลักได้ก็แซงเกาหลีและเสร็จก่อนประมาณ 1 เดือน....ส่วนเจ้าของตึกมีชื่อว่า Kuala Lumpur City Center Holdings Sdn. Bhd. หากเข้าใจง่ายๆก็เหมือนเป็นรัฐวิสาหกิจในบ้านเรา ส่วนชื่อตึก ก็เป็นชื่อบริษัทน้ำมันของชาติมาเลเซียที่คนไทยเริ่มรู้จัก คล้ายกับ ปตท.ในบ้านเรา ตึกแฝดนี้สูงมากทีเดียวอยู่ใกล้ๆก็ต้องแหงนจนคอตั้งบ่า เห็นตัวตึกสร้างด้วยสแตนเลสและติดกระจกทั้งหลัง เมื่อก่อนเคยครองแชมป์ตึกสูงที่สุดในโลก แต่ปัจจุบันโดนตึก Taipei 101 แย่งตำแหน่งไปซะแล้ว ซึ่งมีความสูงถึง 509 เมตร ตึก Petronas กลายเป็นจุดขายของการท่องเที่ยวมาเลเซียที่ไกด์จะต้องจัดโปรแกรมให้มาเห็นด้วยตาพร้อมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

เมืองใหม่ปุตราจาย่า 





ชมมัสยิดสีชมพูที่งดงาม ถ่ายรูปกับลานปุตตรา นั่งกระเช้าข้ามภูเขาที่มีความเร็วที่สุดในโลกและยาวที่สุดในเอเซีย เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด พักบนเก็นติ้งไฮแลนด์ เพลิดเพลินกับเครื่องเล่นต่างๆ มากมายหลายชนิด บริเวณสวนสนุกในร่ม  ชมความงดงามของ Stadthuys, Victoria Fountain, Christ Churchหอนาฬิกา กังหันแถบDuch Square และย่านอาณาจักรสีแดง ซึ่งเคยเป็นดินแดนของดัช 

เขา St. Paul Hill 


ชมทิวทัศน์ของเมืองและไปสักการะรูปปั้นนักบุญ St Fracis ที่ศักดิ์สิทธิ์ (ตามตำนานเล่าว่าเมื่อหลายร้อยปีล่วงมาแล้ว นักบุญ Farncis ได้สิ้นชีวิตไปเกือบ 1 ปี เขาได้ฝังศพไว้ในมะละกา ต่อมาได้ขุดศพท่านขึ้นเพื่อจะนำท่านไปฝังที่เมืองกัวร์ ประเทศอินเดีย แต่เมื่อขุดศพท่านขึ้นมาปรากฏว่า ศพท่านเหมือนคนนอนหลับ จึงได้ขอตำแหน่งนักบุญให้แก่ท่านจากพระราชวังวาติกัน แต่ทางพระราชวังได้ตอบกลับมาอีก 16 ปีผ่านไปขอให้ตัดแขนไปพิสูจน์ เมื่อตัดแขนปรากฏว่ามีเลือดไหลเหมือน ยังมีชีวิตอยู่จึงได้รับประกาศให้เป็นนักบุญ St. Francis Xavier และอีก60 ปีผ่านไป ทางมะละกาต้องการสร้างอนุสาวรีย์ของท่านไว้บนยอดเขา St. Paul Hill เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ปรากฏว่าในวันหนึ่งเกิดฟ้าผ่าลงมาถูกกิ่งไม้ใหญ่หักลงมาถูกแขนหัก เหมือนแขนข้างที่ตัดส่งให้ พระราชวังวาติกัน St. Francis Xavier จึงมีผู้นับถือทั่วโลกและมีโรงเรียนในชื่อท่านทั่วโลก


ป้อม A Famosa 

ป้อมป้องกันเมืองของโปรตุเกส ซึ่งถูกทำลายโดยอังกฤษจนเกือบหมด เพราะไม่ต้องการให้มะละกามีเขี้ยวเล็บ (เหลือไว้ แค่ประตู Porta De Santiago) ชมย่านของเก่าบน ถนน Jonker Street ชมย่านการค้าผสมผสาน บนถนนเดียวกัน ชมวัดจีนที่เก่าแก่ที่สุดในมาเลเซีย วัด Cheng HoonTengTemple 

คาเมรอนไฮแลนด์ คาเมรอนไฮแลนด์ 



ชื่นชมธรรมชาติ ระหว่างทางสู่คาเมรอน ชมไร่พืชผักอันเขียวขจีและไร่สตอร์เบอร์รี่จำนวนมากมาย บนภูเขาสูงสัมผัสอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เพลิด เพลินกับทัศนียภาพของทิวเขาและป่าดงดิบแวะชมฟาร์มผึ้ง 

ย่าน Dataran Merdeka



สถานที่ฉลองเอกราช ชมอาคารสวยๆรอบๆ เช่น อาคาร Sultan Abdul Samad ปัจจุบันเป็นที่ทำการของศาลสูง อาคารที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งใน มาเลเซีย Selangor Club ของผู้ดีชาวอังกฤษในสมัยก่อน

ลานน้ำพุ St.Mary Church 


โบสถ์เซ็นต์แมรี่ อายุกว่า 200 ปี และเสาธงที่สูงที่สุดในโลก (ในวันที่ 30 ส.ค. 2500 ธง Union Jack ของอังกฤษได้ลดลงและชักธงสหพันธ์ รัฐมาเลเซีย ขึ้นแทนอันถือเป็นวันฉลองเอกราช)



วัดเขาเต่า 

ซึ่งมีเจ้าแม่กวนอิมประดิษฐานบนยอดเขา ชมเจดีย์หมื่นพระ ชมทิวทัศน์ของเมืองปีนัง เมืองท่าใหญ่ในสมัยประเทศอังกฤษมาปกครอง สนุกกับการลงเขาช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายจากทั่วประเทศอาเซียนและของเล่นตลกๆ ต่างๆ ของที่ระลึกของมาเลเซีย สัญลักษณ์ต่างๆของประเทศ เสื้อผ้าสวยงามและผ้าปูโต๊ะจากจีน พรมจากอินเดีย เลือกซื้อของที่ระลึกท้องถิ่นฝากคนที่บ้าน " บะกุดเต๋ " (ผงสมุนไพรยาจีนบำรุงร่างกาย) ชมอาคารบ้านเรือนชาวปีนังซึ่งสร้างตามแบบสถาปัตยกรรม โปตุเกสอันเก่าแก่ซึ่งรัฐบาลมาเลเซียอนุรักษ์ไว้มองดูเหมือนอาคารของชาวภูเก็ต 

เกาะลังกาวี 


ประกอบด้วยกลุ่มเกาะเมืองร้อนจำนวน 104 เกาะ ซึ่ง 36 เกาะจะเป็นเกาะหินอ่อนเกือบทั้งสิ้น ตั้งอยู่ใกล้ฝั่งทะเลตะวันตกเฉียงเหนือ ของคาบสมุทร มาเลเซีย ห่างจากเมืองกัวลาเปอร์ลิสประมาณ 30 กิโลเมตร และเมืองกัวลาเคดะห์ 51 กิโลเมตร เกาะใหญ่ รู้จักทั่วกันในชื่อว่า เกาะลังกาวี เกาะนี้เต็มไปด้วยนิยายปรัมปราสมัยโบราณที่เล่าลือสืบต่อกันมามีทั้งผีสิงและ นกยักษ์ นักรบผู้กล้าหาญและ นางฟ้าที่สวยงามและยัง รวมทั้งการสู้รบและความรักน่าจับใจในฐานะที่เกาะลังกาวีเปรียบเสมือนสรวงสวรรค์ตามธรรมชาติ จึงหาที่ใดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาเทียบเท่ามิได้เลย จากภูมิศาสตร์ย้อนหลัง 500 ล้านปี ตัวเกาะประกอบด้วยหินชนิดพิเศษที่กระตุ้นความนึกคิดและ สร้างความพิศวงงงงวย ให้แก่ผู้ได้พบเห็นถ้ำที่มีอยู่มากมายด้วยหินปูน บ้างก็ห้อยย้อยลงมาจากเพดานถ้ำและที่งอกขึ้นจากพื้นถ้ำก็มีอยู่มากมาย น่าชมอย่างยิ่ง ทำให้เกิดความอยากรู้ถึงความลึกลับที่ต่อเนื่องมาแต่สมัยโบราณ ชายหาดสวยงามที่เอื้อเฟื้อการพักผ่อนหย่อนอารมณ์ น้ำสะอาดสีเขียวมรกตรอบๆเกาะ เหมาะสำหรับกีฬาทางน้ำและกิจกรรมที่สร้างความสนุกสนาน บันเทิงใจ โลกสัตว์น้ำที่สวยตระการที่อยู่ใต้เกาะต่างๆของเกาะลังกาวีกำลังควักเรียกท่านผู้นิยมการประดาน้ำอยู่เวลานี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น